4 สินทรัพย์ไหนบ้าง สำหรับชาวมุสลิมที่ไม่ควรลงทุน
รู้หรือไม่ว่าชาวมุสลิมไม่สามารถเลือกได้ทุกอย่าง เพราะการลงทุนในสินทรัพย์บางประเภทได้ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม ดังนั้นบทความนี้จะมาบอกว่าสินทรัพย์ประเภทไหนบ้าง สำหรับชาวมุสลิมที่ไม่ควรลงทุน ไปดูกันเลย 101หารายได้
ชาวมุสลิมไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้าง
1. ธุรกิจที่เป็นกลุ่มสถาบันการเงิน ที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจตามหลักศาสนาอิสลาม
ตัวอย่างเช่น ธนาคาร ประกันภัย และกลุ่มปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้มีรายได้จากดอกเบี้ย เป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับชาวมุสลิมที่มองว่าการเก็บดอกเบี้ย เป็นการลดทอนทรัพย์สินของผู้อื่น
2. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง
ตัวอย่างเช่น โรงภาพยนตร์ ดนตรี และโรงแรมทั่วไป สำหรับการลงทุนในกิจการโรงแรมคือ โรงแรมฮาลาล โดยโรงแรมฮาลาลเป็นโรงแรมที่ปฏิบัติถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม เท่านั้น เช่น ไม่มีอาหารที่ทำจากเนื้อหมู ไม่มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีพื้นที่สำหรับการทำละหมาด ไม่มีสถานบันเทิงภายในโรงแรม และอื่น ๆ อีกมากมาย
3. ธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับสุกร
ตัวอย่างเช่น ฟาร์มสุกร และร้านอาหารที่จัดจำหน่ายเนื้อสุกร
4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข
ตัวอย่างเช่น ยาสูบ แอลกอฮอล์ และการพนัน
การลงทุนของชาวมุสลิม
การลงทุนที่ดีตามหลักศาสนาอิสลามต้องตรงกับหลักการมุชาเราะกะฮ์ด้วยคือ ซื้อหุ้น เพราะอยากเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร ดังนั้นการใช้มาร์จิน, เดย์เทรด, อ็อปชัน และฟิวเจอร์ส จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
ส่วนตราสารหนี้ต่าง ๆ เช่น หุ้นกู้ ถือเป็นสินทรัพย์ที่ชาวมุสลิมไม่ควรลงทุน เพราะนับเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย แต่ในปัจจุบันมีตราสารหนี้ที่ชาวมุสลิมสามารถลงทุนได้แล้วคือ สุขุก ที่มีรูปแบบคือ ผู้ระดมทุนจะต้องขายสินทรัพย์ให้กับนิติบุคคลเฉพาะกิจก่อน ในราคาที่เท่ากับจำนวนเงินที่ต้องการระดมทุน หลังจากนั้นนิติบุคคลเฉพาะกิจจึงจะทำการออกตราสารหนี้ เพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนในเวลาต่อมา ซึ่งผู้ที่ลงทุนจะมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ต่างจากผู้ถือตราสารหนี้ทั่วไป ขณะที่ผู้ระดมทุนต้องทำการเช่าสินทรัพย์ภายในระยะเวลาและอัตราค่าเช่าที่ตกลงกันไว้ ผลตอบแทนจึงอยู่ในรูปแบบของค่าเช่าแทน ซึ่งไม่ผิดต่อหลักศาสนาอิสลาม
ส่วนคริปโทเคอร์เรนซีถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามหรือไม่ มีคำตอบที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากฝั่งที่เห็นด้วยกับการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี ให้เหตุผลว่าคริปโทเคอร์เรนซีนั้น สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้ ไม่ต่างจากเงินทั่วไปจึงไม่ถือเป็นเรื่องที่ผิด แต่สำหรับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย มองว่าคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนมากและเสี่ยงเกินไป รวมถึงมีคนบางกลุ่มใช้ในการก่ออาชญากรรมประเภทต่าง ๆ ด้วย เช่น การฟอกเงิน ดังนั้นถ้าหากดูตามกฎเกณฑ์การลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม หากเป็นการเก็งกำไรในคริปโทเคอร์เรนซีก็ยังถือว่าไม่ควรอยู่ดี
ทั้งหมดคือเรื่องราวของสินทรัพย์ที่ชาวมุสลิม สำหรับเกณฑ์การลงทุนของศาสนาอิสลามมีหลายส่วนที่คล้ายกับแนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่เน้นดูปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมีแนวคิดร่วมเป็นเจ้าของกิจการ และลงทุนในบริษัทที่มีหนี้น้อย เรียกได้ว่าเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกสินทรัพย์ที่ปลอดภัยให้กับนักลงทุน
ขอบคุณ Lottosod888
