แนวทางการสร้างงานเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
ประสบความสำเร็จ ปัญหาการสร้างงานและเป็นประเด็นสนทนาต่อเนื่องของหลาย ๆ คน การศึกษาโดย McKinsey Global Institute เห็นด้วยว่า “การสร้างงานเป็นศูนย์กลางของอนาคตของเศรษฐกิจ”
ผลการศึกษาพบว่าการจะไปถึงการสร้างงานให้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีการลงทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งจะเป็นการเพิ่มผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญและเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยการถือกำเนิดของเทคโนโลยี มีการสร้างงานมากมาย ตอนนี้ผู้คนสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย แนวทางด้านล่างนี้ใช้ได้กับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือผู้ที่ต้องการสร้างงานให้ตนเอง วันนี้ 101หารายได้ จะพามาดู
ตามแนวทางเหล่านี้ คุณควรพิจารณาพัฒนาทักษะเพื่อพัฒนาและก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ หากคุณทำงานเป็นลูกจ้างอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือคุณต้องติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อให้ทักษะของคุณสามารถนำไปขายในตลาดสำหรับนายจ้างรายอื่นได้เช่นกัน
แนวทางการสร้างงานที่ยังเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข
โลกได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือจะมีผู้คนอาศัยอยู่ตามแหล่งชุมชน คนด้อยโอกาส หรือคนที่ขาดแคลนโอกาสในด้านการศึกษา และมองหาโอกาสในเมืองและใจกลางเมืองที่สามารถเข้าถึงงานได้มากขึ้น
จึงทำให้การประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ จึงต้องเลือกพิจารณาการสร้างงานและจ้างงานบุคคลที่พร้อมในคุณสมบัติทั้งการศึกษาและประสบการณ์ แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทที่จะต้องพิจารณาถึงศักยภาพในการสร้างงานด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีแนวทางการสร้างงานแบบใหม่ที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในวงกว้างทั้งในด้านการให้โอกาสการสร้างงานและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต
แนวทางการสร้างงานโดยทั่วไปควรจะเป็นแบบไหน
แนวทางการสร้างงานเป็นชุดของแนวคิดในการทำให้งานมีความหมาย ยั่งยืน และน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
ตรงกันข้ามกับความเชื่อยอดนิยม การสร้างงานไม่ได้มาจากบริษัทขนาดใหญ่หรือองค์กรขนาดใหญ่เสมอไป บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมากยังสร้างงานโดยการส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่นมากกว่าจะเจาะกลุ่มระดับองค์กร
ซึ่งแนวทางดังกล่าวเรียกร้องให้ผู้คนและบริษัทต่าง ๆ มองออกไปนอกธุรกิจปัจจุบันเพื่อหาแนวทางที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้และมุ่งเน้นในการพัฒนาสังคมในทุกระดับรวมไปถึงในระดับท้องถิ่น โดยพวกเขามุ่งเน้นไปที่สี่ด้าน คือการขยายผลกระทบทางสังคม สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิต และหล่อเลี้ยงการเติบโตส่วนบุคคล ด้วยวิธีนี้ เวลาที่ใช้ไปกับงานจะน้อยลงและผู้คนจะได้มีเวลาพัฒนาตัวเองของตัวเองมากขึ้นเพื่อที่ประชากรในประเทศจะสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยตนเองและเป็นประชากรที่มีความสามารถรอบด้าน และมีคุณภาพ สามารถปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์และรูปงานที่หลากหลายมากที่สุด รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของแรงงานในประเทศไทยให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ประเทศของเราพัฒนามากยิ่งขึ้นไปอีก และส่งผลต่อสังคมโดยรวม เศรษฐกิจในประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นผ่านประชากรที่มีคุณภาพในด้านความสามารถและความหลากหลายในการทำงาน
