เปิดหลักการออม รวยได้ ง่ายนิดเดียว ใคร ๆ ก็ต้องการเป็นคนรวย และก็เป็นความฝันของทุก ๆ คน ดังนั้นเราจะทำอย่างไรถึงจะรวย 101หารายได้ เราได้รวบรวมหลักการออม เพื่อเอาไว้ใช้ในอนาคต เป็นวิธีที่จับต้องได้มากที่สุด จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันเลย
เปิดหลักการออมเงินทั้ง 6 ประเภท
สำหรับหลักการออมเงินในปัจจุบัน เราสามารถเลือกออมได้หลายประเภท มีทั้งหมด 6 ประเภท ดังนี้
- ออมเงินในบัญชีเงินฝาก เป็นการฝากเงินไว้กับธนาคาร สามารถเลือกได้หลายรูปแบบ เช่น บัญชีออมทรัพย์และบัญชีฝากประจำ มีข้อดี คือ ฝาก ถอนได้ตามต้องการ มีสภาพคล่องสูง และปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ ข้อเสีย คือ ผลตอบแทนน้อยถึงปานกลาง
- ออมเงินในหุ้น เป็นหลักการออมการลงทุนในหุ้นที่ต้องการได้กำไรหรือผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินในบัญชี โดยจะมีความเสี่ยงมากกว่า มีข้อดี ได้แก่ ซื้อ-ขาย ได้ตามต้องการ มีผลตอบแทนสูงตามความเสี่ยง ส่วนข้อเสีย ได้แก่ ความเสี่ยงสูง และต้องติดตามราคาหุ้นเป็นประจำ
- ออมเงินในประกันชีวิต เป็นการออมเงินสำรองไว้ เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเราในอนาคต ในรูปแบบของการจ่ายเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกันชีวิต และทางบริษัทฯ จะต้องจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เอาประกัน เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต หรืออยู่ครบตามสัญญาในกรมธรรม์ มีข้อดี คือ แบ่งเบาภาระเรื่องภาษี ผลตอบแทนสูง คุ้มครองชีวิตและครอบครัว และข้อเสีย คือ ต้องออมในระยะยาวมาก โดยอาจจะไม่ได้ใช้เงินออมนี้เอง เนื่องจากเสียชีวิตก่อนครบกำหนดระยะเวลา
- ออมเงินใน LTF/RMF เป็นหลักการออมการลงทุนระยะยาว จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าบัญชีเงินฝาก พร้อมได้สิทธิพิเศษในการนำเงินลงทุนมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ มีข้อดี คือ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ ผลตอบแทนค่อนข้างดี ปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ และข้อเสีย คือ ต้องเก็บออมไว้ในระยะยาว
- ออมเงินในกองทุนรวม เป็นการลงทุนในกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลเงินให้ตามนโยบายกองทุน มีหลายประเภท เป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอีกทางหนึ่ง มีข้อดี คือ ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน มีมืออาชีพดูแลจัดการการลงทุนให้ ผลตอบแทนค่อนข้างดี ส่วนข้อเสีย คือ อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน เนื่องจากขึ้น-ลงในทิศทางตรงข้ามกับอัตราดอกเบี้ย
- ออมเงินในอสังหาริมทรัพย์ เป็นหลักการออมการซื้อที่ดิน บ้าน หรือทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินในอนาคต เป็นการเก็งกำไรในอนาคตในระดับดี ขึ้นอยู่กับแต่ละทำเลที่ตั้ง มีข้อดี คือ ผลตอบแทนค่อนข้างดี ใช้เก็งกำไรในอนาคตได้ ส่วนข้อเสีย คือ สภาพคล่องต่ำ และใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
ทั้งหมดนี้คือการหลักการออมทั้ง 6 ประเภท ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทุกหลักการออมที่เสนอมานั้นมีทั้งข้อดี และข้อเสีย เราจึงควรจะเลือกแบบที่ดีที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเรา จะเลือกแบบไหนให้เหมาะสม
สนใจบทความมากมายติดตามได้ใน คนขั้นเทพ
