สมัครที่ไหนดี เปรียบเทียบไรเดอร์ส่งอาหารมีรายได้เท่าไหร่ 

สมัครที่ไหนดี เปรียบเทียบไรเดอร์ส่งอาหารมีรายได้เท่าไหร่ สำหรับการบริการรับ-ส่งอาหาร (Food Delivery) ที่ได้เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน และยังกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้หลายคนเลย ดังนั้นบทความนี้จะมาบอกความแตกต่างของไรเดอร์ส่งอาหารในแต่ละแอป ใครที่กำลังมองหาช่องทางเพิ่มรายได้ไม่ควรพลาด 101หารายได้

ความแตกต่างระหว่างไรเดอร์ส่งอาหารของแต่ละแอป

1. GrabFood

รายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร GrabFood แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ค่าจัดส่งเริ่มต้น 40 บาท ถ้าระยะทางมากกว่า 3 กิโลเมตรขึ้นไป ได้รับค่าบริการเพิ่มเติมเข้ามาต่อกิโลเมตรที่มากขึ้น ค่าโบนัสต่องาน ได้รับ 5-20 บาท/งาน ขึ้นอยู่กับประเภทการรับงานและช่วงเวลาของการรับงาน และอินเซนทีฟแบบสะสมเพชร โดยมีค่าคอมมิชชั่น GrabFood จะหักค่าคอมมิชชั่น 15% จากค่าจัดส่ง (ตัวอย่าง 15% จาก 40 บาท คิดเป็น 6 บาท ได้รับจริง 34 บาท + ค่าบริการที่เพิ่มเติมเข้ามาต่อกิโลเมตร) 

จุดแข็งและจุดอ่อนรายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร ของ GrabFood

• จุดแข็ง มองเห็นยอดรายได้รวมตั้งแต่ก่อนกดรับงาน, มีอินเซนทีฟและโบนัสให้, เลือกวัน-เวลาทำงานได้เองตามความต้องการ, รับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเวลาเปิด-ปิดของร้านนั้น ๆ, ระบบจะค้นหางานที่ใกล้พื้นที่ที่เราอยู่ให้มากที่สุด, สามารถเลื่อนระดับการทำงานได้ แอปเปิดบริการครอบคลุมทั้ง 6 ภาค, รับงานได้มากขึ้น, มีฟีเจอร์ Grabpay ช่วยให้ไม่ต้องเตรียมเงินทอน, ไม่มีรถจักรยานยนต์, มีประกันอุบัติเหตุ
• จุดอ่อน มีเงินค่าบริการส่งอาหารจะได้รับในวันถัดไป, ต้องกดแย่งลูกค้าเองผ่านแอปฯ, มีผู้ขับขี่จำนวนมาก

2. LINE MAN และ LALAMOVE

รายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร LINE MAN และ LALAMOVE ค่าบริการส่งอาหารเริ่มต้น 55 บาทต่อครั้ง (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 46.75 บาท), ค่าส่งเพิ่มเติม 9 บาทต่อกิโลเมตร หากระยะทาง 1 กิโลเมตรขึ้นไป (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 7.65 บาท), บริการช่วงนอกเวลาทำการ ตั้งแต่ 21.00-22.59 น. ได้เพิ่ม 50 บาท (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 42.5 บาท), บริการช่วงนอกเวลาทำการ ตั้งแต่ 23.00-06.00 น. ได้เพิ่ม 100 บาท (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 85 บาท) โดยมีค่าคอมมิชชั่นคิด 15% ของค่าจัดส่ง

จุดแข็งและจุดอ่อนรายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร ของ LINE MAN และ LALAMOVE

• จุดแข็ง มีฐานผู้ใช้งานถึง 44 ล้านคน และเป็นพันธมิตรกับร้านค้ามากกว่า 1 แสนราย เมื่อปี 2019 ทำให้มีโอกาสในการรับงานจำนวนมาก, สามารถเลือกกดรับงานได้เอง, รับงานได้ถึง 2 แอปฯ คือ LINE MAN และ LALAMOVE, วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง, รับเงินทันทีหลังจบงาน
• จุดอ่อน ต้องกดแย่งลูกค้าเองผ่านแอปฯ, มีผู้ขับขี่จำนวนมาก ต้องแข่งกันแย่งลูกค้า, แอปฯ เปิดบริการเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พัทยา อยุธยา

3. Foodpanda

รายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร Foodpanda ได้รับเฉพาะค่าจัดส่ง ไม่มีค่าชั่วโมงทำงาน โดยจะได้รับตามการจัดอันดับเรตติ้งการทำงาน, มีโอกาสได้เงินเพิ่มจากโบนัสที่ทำได้

จุดแข็งและจุดอ่อนรายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร ของ Foodpanda 

• จุดแข็ง มีระบบจ้างงานแบบประจำ โดยมีสวัสดิการพนักงานและประกันกลุ่มให้, ไม่ต้องกดแย่งงาน เพราะมีระบบจ่ายงานอัตโนมัติตามพื้นที่, แบ่งโซนชัดเจน ไม่ต้องขับขี่ระยะไกล, วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง, ครอบคลุมพื้นให้บริการใน 28 จังหวัด

จุดอ่อน ไม่สามารถเลือกรับงานเองได้ วิ่งได้เฉพาะโซนที่กำหนดไว้เท่านั้น, ไม่ได้รับเงินทันที โดยจะจ่ายเงินตามรอบบัญชีของบริษัท, ส่วนใหญ่รับพนักงานประจำ แต่ก็สามารถเลือกทำเป็นพาร์ทไทม์ได้ง

สนใจบทความแนะนำการทำงานติดตามใน คนขั้นเทพ